ทุนไหลกลับ! หุ้นสหรัฐ–จีนวิ่งทำนิวไฮ นักลงทุนจับตาเฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นโลกคึกคัก รับแรงหนุนเฟด–จีน หุ้นพุ่งทำสถิติใหม่
ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลายดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ทะลุ 6,500 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ Nasdaq ปรับขึ้นตาม ส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ S&P 500 ขยับขึ้นกว่า +10% สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและแรงหนุนจากกระแส AI Boom ที่ช่วยขับเคลื่อนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักลงทุนทั่วโลกยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) วันที่ 17–18 กันยายนนี้ หลังประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณชัดเจนว่ามีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยจากระดับ 4.25%–4.50% ซึ่งจะช่วยดึงกระแสเงินทุนกลับจากพันธบัตรสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องฟองสบู่ยังคงมีอยู่ เนื่องจาก Valuation หุ้นสหรัฐฯ สูงเกินค่าเฉลี่ยระยะยาว ขณะที่นักลงทุนชื่อดังอย่าง Howard Marks เตือนว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของฟองสบู่แล้ว
ด้านเอเชีย ตลาดหุ้นจีนกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เมื่อดัชนี SSE และ CSI 300 พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปีและ 3 ปีตามลำดับ โดยปีนี้ให้ผลตอบแทนแล้วกว่า +14%–19% ขณะที่ Valuation ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว ด้วยค่า P/E เพียง 13–14 เท่า และอัตรา Market Cap/GDP อยู่ราว 70–80% ต่ำกว่าระดับที่บ่งชี้ภาวะฟองสบู่ รัฐบาลจีนยังเดินหน้ามาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ ทั้งการลดดอกเบี้ย อัดฉีดสภาพคล่อง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการผลักดันยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ตลอดจนการสนับสนุนภาคเทคโนโลยีและ AI ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน
แม้เศรษฐกิจจีนยังเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมและกำลังซื้อในประเทศ แต่สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Goldman Sachs และ JPMorgan ยังคงมุมมองบวก โดยคาดว่าหุ้นจีนมีโอกาสสร้างผลตอบแทน 10–12% ในปีนี้ และอาจพุ่งแตะ 35% ภายในปี 2026
ท่ามกลางกระแสการลงทุนที่ร้อนแรง ผู้เชี่ยวชาญแนะนักลงทุนจัดพอร์ตตามกลยุทธ์ Core & Satellite โดยคงสัดส่วนพอร์ตหลัก (Core) ที่กระจายการลงทุนทั่วโลกไว้ราว 80% และใช้พอร์ตเสริม (Satellite) ราว 20% เพื่อเก็บโอกาสในตลาดขาขึ้นอย่างหุ้นจีน หรือกลุ่มธีมเด่น เช่น เทคโนโลยี AI พลังงานสะอาด และบริการสุขภาพ พร้อมทั้งหมั่นปรับสมดุล (Rebalance) เพื่อบริหารความเสี่ยง
สุดท้ายนี้ คำกล่าวของนักลงทุนระดับตำนานยังคงใช้ได้เสมอ Peter Lynch เตือนว่า “เวลาซื้อหุ้นคือเมื่อเรามีเหตุผลที่ดีที่สุด เวลาขายคือเมื่อเหตุผลนั้นหมดไปแล้ว” และ Warren Buffett ย้ำว่า “อย่าเดิมพันสวนตลาดหุ้นอเมริกา” เพราะการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยทั้งวินัย ความอดทน และการมองเป้าหมายระยะยาว