ปิด ช่องแคบฮอร์มุซ สะเทือนเอเชียหนักสุด หวั่นพลังงานพุ่งเขย่า เงินเฟ้อ

Cover image ปิด ช่องแคบฮอร์มุซ สะเทือนเอเชียหนักสุด หวั่นพลังงานพุ่งเขย่า เงินเฟ้อ

ปิด ‘ช่องแคบฮอร์มุซ’ สะเทือนเอเชียหนักสุด หวั่นพลังงานพุ่งเขย่า 'เงินเฟ้อ'

 

อิหร่านขู่ว่าจะปิด "ช่องแคบฮอร์มุซ" ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเสมือนคอขวดที่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติราว 20% ของทั้งโลกต้องเดินทางผ่าน การขู่นี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้หากสหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของตน แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่แค่คำขู่ก็ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแล้ว

ทำไมเอเชีย ต้องกังวลเป็นพิเศษ? เอเชียคือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดที่พึ่งพาพลังงานจากเส้นทางนี้อย่างมหาศาล:

น้ำมันดิบ: กว่า 80% ของน้ำมันดิบเกือบ 15 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ผ่านช่องแคบนี้ ถูกส่งมายังเอเชีย โดยมี ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, อินเดีย และไทย เป็นลูกค้ารายสำคัญ

ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG): เอเชียรับ LNG ที่ขนส่งผ่านเส้นทางนี้กว่า 80% โดยเฉพาะจากกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

หากช่องแคบถูกปิด การขนส่งพลังงานเหล่านี้จะหยุดชะงักทันที ส่งผลให้เอเชียขาดแคลนพลังงานอย่างหนักหน่วงที่สุดในโลก

แล้วอิหร่านจะปิดจริงหรือ? นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า โอกาสที่จะปิดจริงๆ นั้นมีน้อยมาก (ประมาณ 20%) ด้วยเหตุผลสำคัญคือ "จีน"

จีนเป็นทั้งพันธมิตรคนสำคัญของอิหร่านในเวทีโลก และยังเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน

การปิดช่องแคบจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งอิหร่านคงไม่อยากทำให้พันธมิตรรายใหญ่ไม่พอใจ

อย่างไรก็ตาม อิหร่านอาจเลือกใช้วิธีคุกคามเรือบรรทุกน้ำมันในบริเวณนั้นแทนการปิดตายไปเลย

 

ถ้าหากถูกปิดขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้น? นี่คือผลกระทบที่คาดการณ์ไว้:

1. ราคาน้ำมันพุ่งทะยาน: คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจพุ่งไปถึง 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

2. เงินเฟ้อพุ่งสูง: ราคาพลังงานที่แพงขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการทุกอย่างแพงตามไปด้วย (เงินเฟ้อ) โดยเฉพาะในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน

3. ปัญหาเศรษฐกิจตามมาเป็นลูกโซ่: ประเทศต่างๆ จะขาดดุลการค้า (จ่ายค่าพลังงานแพงขึ้น) สกุลเงินจะอ่อนค่าลง และธนาคารกลางอาจต้อง ขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ

 

โดยสรุป แม้โอกาสที่อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซแบบเบ็ดเสร็จจะมีน้อย แต่เพียงแค่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นก็เพียงพอที่จะสร้างความปั่นป่วนให้กับราคาพลังงานและท้าทายเศรษฐกิจของทั้งทวีปเอเชียได้อย่างมหาศาล

24 Jun 2025Oleh Trendpro