หุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวแบบผสม-ผสานในวันนี้ โดยที่ราคาทองคำซึ่งพุ่งขึ้นมาอย่างหนัก ล้วนถูกดึงกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อแรงซื้อเริ่มอิ่มตัวและนักลงทุนเริ่ม “เก็บกำไร” หลังจากการวิ่งขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงก่อนหน้า

ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน ท่ามกลางความคาดหวังว่าตะวันตกอาจออกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียอย่างเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่ออุปทานโลกและหนุนแรงซื้อในตลาดพลังงาน

ราคาทองคำฟิวเจอร์สในตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงเช้าวันที่ 1 ต.ค. แตะระดับ 3,901.40 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับฐานลงเล็กน้อยที่ 3,888.50 ดอลลาร์ ณ เวลา 11.36 น.ตามเวลาไทย ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวันศุกร์ โดย Brent ปิดที่ราว 67.29 ดอลลาร์/บาร์เรล และ WTI อยู่ที่ 63.34 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งปกติถือเป็นปัจจัยบวกต่ออุปสงค์พลังงาน

ตลาดทองคำกำลังกลับมาเป็นประเด็นร้อนในหมู่นักลงทุนอีกครั้ง หลังราคายืนเหนือระดับสูงสุดเดิมหลายรอบติดต่อกัน และเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจเกิดการเบรกเอาต์ครั้งใหญ่ สู่การทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์

22 เม.ย. 2568 — ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร หลังจากร่วงลงแรงในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนบางส่วนเข้าเก็งกำไรจากการช้อนซื้อคืน (short covering) อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินยังคงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางราคาน้ำมันในระยะข้างหน้า

21 เม.ย. 2568 — ราคาทองคำโลกพุ่งแตะระดับ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ

16 เม.ย. 2568 – ตลาดทองคำร้อนแรงอีกครั้ง โดยราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ทะลุ $3,300 ต่อออนซ์ ท่ามกลางแรงกดดันจาก ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย

โตเกียว, 8 เมษายน — ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นราว 1% ในช่วงเช้าวันอังคาร หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในวันก่อนหน้า จากความวิตกว่าภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะฉุดดีมานด์ทั่วโลกและจุดชนวนเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเตือนว่า ความเสี่ยงขาลงยังคงมีอยู่