ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดอ่อนแรงในวันพฤหัสบดี (31 ต.ค. 68) โดย ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1.57% นำโดยแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลัง Meta และ Microsoft รายงานผลประกอบการที่สร้างความกังวลเรื่อง “ต้นทุนด้าน AI และค่าใช้จ่ายในอนาคต”

เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ NVIDIA เตือนว่า การที่สหรัฐพยายามจำกัดการส่งออกชิป AI ให้จีน อาจกลายเป็น “ดาบสองคม” ที่ทำร้ายสหรัฐเองมากกว่าจีน เพราะจะทำให้สูญเสียการเข้าถึง “นักพัฒนา AI” ซึ่งกว่า ครึ่งหนึ่งของนักพัฒนา AI ทั่วโลกเป็นชาวจีน

NVIDIA ประกาศลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าถือหุ้น 2.9% ของ NOKIA — จุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ เพื่อพัฒนา AI-Native Networks และโครงสร้างพื้นฐานด้าน 6G ร่วมกัน

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า ราคาหุ้นทั่วโลกอยู่ในระดับที่ “สูงกว่าพื้นฐาน” อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสที่ตลาดจะเกิดการ ปรับลดอย่างไม่เป็นระเบียบ (disorderly corrections) เมื่อเผชิญช็อกด้านลบใด ๆ ตามมา

ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นกว่า 1% แตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน ส่วนตลาดเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง ก็เปิดบวกตามแรงส่งจากวอลล์สตรีท

ใน 90 นาทีของเกมบอล Brand Exposure = เงินหมุนระดับพันล้านดอลลาร์ และทุกครั้งที่กล้องแพลนไป — ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านั้นอาจขยับตาม Sentiment ของแมตช์

โตเกียว, 8 ตุลาคม 2025 — สำนักข่าว Reuters รายงานว่า กลุ่มบริษัท SoftBank Group ของญี่ปุ่น ได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ “ธุรกิจหุ่นยนต์อุตสาหกรรม” ของ ABB บริษัทเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่า 5.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 198,000 ล้านบาท)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร้อนแรงอีกครั้ง หลัง AMD (Advanced Micro Devices) ประกาศข้อตกลงความร่วมมือกับ OpenAI เพื่อจัดหาและพัฒนาชิปประมวลผลสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยตรง ส่งผลให้ราคาหุ้น AMD พุ่งกว่า 24% ภายในวันเดียว และกลายเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทั่วโลก

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดสัปดาห์คึกคัก ดัชนี MSCI Asia-Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่ Nikkei และ Topix ของญี่ปุ่นก็ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนแรงหนุนจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้