ตลาดหุ้นเอเชียเปิดสัปดาห์คึกคัก ดัชนี MSCI Asia-Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่ Nikkei และ Topix ของญี่ปุ่นก็ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนแรงหนุนจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลายดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ทะลุ 6,500 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ Nasdaq ปรับขึ้นตาม ส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ S&P 500 ขยับขึ้นกว่า +10% สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและแรงหนุนจากกระแส AI Boom ที่ช่วยขับเคลื่อนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

สำหรับตลาดหุ้น เดือนกันยายนมักถูกเปรียบเปรยเหมือนเช้าวันจันทร์ที่ไม่มีใครรอคอย โดยในอดีต ดัชนีสำคัญอย่าง S&P 500, Dow Jones และ Nasdaq Composite มักแสดงผลงานที่แย่ที่สุดของปี

วอชิงตัน, 24 เม.ย. 2568 — ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณ “ถอย” จากท่าทีแข็งกร้าว ด้วยการประกาศว่า “ไม่มีเจตนา” ปลดเจอโรม พาวเวล จากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และเพิ่มความหวังว่าอาจผ่อนคลายมาตรการภาษีต่อจีน

วอชิงตัน, 22 เม.ย. 2568 — ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณถอยจากท่าทีแข็งกร้าว โดยยืนยันว่า “ไม่มีความตั้งใจที่จะปลด” เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แม้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันจะเคยกล่าวโจมตีอย่างรุนแรงและขู่ปลดกลางอากาศ

11 เม.ย. 2568 – ตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี กลับมาเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนเพิ่มอีก 18 แห่ง ซ้ำเติมภาวะตึงเครียดจากภาษีนำเข้าสูงถึง 145% ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งประกาศไปก่อนหน้านี้

ท่ามกลางกระแส AI ที่ร้อนแรง “DeepSeek” ปรากฏการณ์ AI สัญชาติจีนที่โผล่ขึ้นมาอย่างน่าจับตา กำลังจุดกระแสใหม่ให้ตลาดหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะ “หุ้นจีน” ที่เคยซบเซา กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง และเริ่มมีเสียงถามว่า “ถึงเวลาท้าทาย” เจ้าตลาดอย่าง “หุ้นเทคสหรัฐ” แล้วหรือยัง?

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 50% ส่งผลให้ภาษีรวมสูงถึง 104% หากจีนไม่ยกเลิกแผนขึ้นภาษีตอบโต้ภายในวันที่ 8 เมษายน 2025 นี้

นโยบายภาษีชุดใหม่ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จุดชนวนแรงสั่นสะเทือนทั่วโลก หลังประกาศสงครามภาษีรอบล่าสุด ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีระดับโลก 500 อันดับแรก ลดลงทันที 208,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท ภายในวันเดียว