โรงงานเอเชียสะดุดอีกครั้ง ภาษีสหรัฐฯ ฉุดคำสั่งซื้อส่งออก

รงงานในเอเชียเริ่มส่งสัญญาณ “ชะลอตัว” อีกครั้ง หลังจากคำสั่งซื้อส่งออกลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจีนและเกาหลีใต้ ที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนตุลาคม 2025 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 สะท้อนว่ากิจกรรมการผลิตกำลังหดตัว
.
ปัจจัยหลักมาจาก แรงกดดันของภาษีสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ต้นทุนสินค้าส่งออกสูงขึ้น ขณะที่อุปสงค์จากผู้บริโภคอเมริกันเริ่มอ่อนแรงลง แม้ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะตกลงเลื่อนการเก็บภาษีแบบตอบโต้ไว้ 1 ปี แต่ตลาดยังมองว่า “นี่เป็นเพียงการพักศึกชั่วคราว ไม่ใช่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง”
.
ข้อมูลจากสำนักงานข่าว Reuters ระบุว่า:
- จีนและเกาหลีใต้ เผชิญคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง
- มาเลเซียและไต้หวัน กิจกรรมโรงงานลดลงเช่นกัน
- ขณะที่ เวียดนามและอินโดนีเซีย ยังขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับจีน รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจมูลค่าราว 19 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโตใกล้ 5% ในปี 2025 โดยไม่ต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมแต่ความเสี่ยงจากการส่งออกที่ชะลอตัวอาจทำให้เป้าหมายนี้ยากขึ้น
.
สำหรับจีน รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจมูลค่าราว 19 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโตใกล้ 5% ในปี 2025 โดยไม่ต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมแต่ความเสี่ยงจากการส่งออกที่ชะลอตัวอาจทำให้เป้าหมายนี้ยากขึ้น
.
มุมมอง TrendPro Insight:
ภาคการผลิตที่อ่อนแรงสะท้อน “แรงกดดันต่อเศรษฐกิจเอเชียรอบใหม่” ซึ่งอาจกระทบต่อเงินทุนไหลเข้า–ออกในตลาดหุ้น, ค่าเงินภูมิภาค และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ หรือ น้ำมัน
.
“การชะลอตัวของคำสั่งซื้อส่งออกอาจกลายเป็นสัญญาณนำของภาวะเศรษฐกิจโลกช่วงปลายปี 2025”
.
เทรดเดอร์ควรติดตามดัชนี PMI รายเดือนของจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เพราะเป็นตัวบ่งชี้จังหวะ “แรงส่งของตลาดเอเชีย” ที่มีผลโดยตรงต่อคู่เงิน USD/JPY, USD/CNH และ ทองคำ