ชัตดาวน์สหรัฐฯ ยืดกว่า 40 วัน เศรษฐกิจโลกเริ่มสะเทือน แต่มีลุ้นเปิดรัฐบาลในสัปดาห์นี้!

วิกฤติ “Government Shutdown” ของสหรัฐฯ ลากยาวเข้าสู่วันที่ 40 ถือเป็น การชัตดาวน์ที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ หลังงบประมาณหมดอายุเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา และสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้ในเวลาที่กำหนด
ล่าสุดวุฒิสภา (US Senate) มีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (stopgap bill) เพื่อเปิดรัฐบาลได้ถึงช่วงต้นปี 2026 ขณะนี้รอเพียงการเห็นชอบจาก สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) และการลงนามของประธานาธิบดี
.
📉ผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว
- GDP สหรัฐฯ สูญเสีย ราว 14 พันล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 0.8 – 1.0 % ของ GDP ต่อไตรมาส จากการหยุดจ่ายเงินพนักงานรัฐบาลกว่า 750,000 คน
- ภาคการเดินทาง–ท่องเที่ยว สูญรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ จากเที่ยวบินที่ยกเลิกและระบบตรวจความปลอดภัยในสนามบินที่หยุดชะงัก
- ข้อมูลเศรษฐกิจหลัก เช่น CPI, NFP และ GDP รายเดือน ถูกเลื่อนเผยแพร่ ทำให้ Fed ต้องประเมินเศรษฐกิจภายใต้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
- ธุรกิจเอกชนและ SMEs ที่พึ่งพาสัญญารัฐบาล หยุดดำเนินการ ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อในประเทศลดลงชั่วคราว
.
⚙️คาดการณ์ “จุดจบของวิกฤติ”
หาก House โหวตรับร่างงบชั่วคราวฉบับนี้ รัฐบาลจะสามารถกลับมาเปิดได้ภายใน ปลายสัปดาห์นี้ (13–15 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นเพียง “ข้อตกลงชั่วคราว” และสหรัฐฯ อาจต้องเจรจาใหม่อีกครั้งในต้นปี 2026 หากงบระยะยาวยังไม่ผ่าน
.
💬TrendPro Insight
“ชัตดาวน์ 40 วัน ทำให้ ‘Risk Sentiment’ ของตลาดโลกผันผวนหนัก นักลงทุนหันหาทอง และ Bitcoin ในฐานะ Safe Haven จนราคาพุ่ง แต่หากรัฐบาลกลับมาเปิดได้จริง สัปดาห์นี้ จะเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นในทอง และ Crypto ทันที”